การเขียน Statement of Purpose

การเขียน SOP หรือจดหมายแนะนำตัว เพื่อเข้ามหาวิทยาลัยออสเตรเลีย

เมื่อสมัครเข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัยในออสเตรเลีย องค์ประกอบที่สำคัญประการหนึ่งของการสมัครคือ statement of purpose หรือจดหมายแนะนำตัวเพื่อชี้แจงเหตุผล ที่ต้องการเข้าเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยในออสเตรเลีย ซึ่ง SOP จะเป็นสิ่งที่จะได้แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจ แรงบันดาลใจ ประสบการณ์ และคุณสมบัติของนักเรียนที่เหมาะสมกับหลักสูตรหรือสถาบันที่สมัครเรียนต่อ

นอกเหนือจากการใช้ SOP เพื่อสมัครเรียนต่อปริญญาตรี และปริญญาโทแล้ว ยังมีความจำเป็นต้องใช้ SOP สำหรับการยื่นขอวีซ่าในระดับการศึกษาอื่น ๆ 

SOP ต้องมีอะไรบ้าง?

นอกเหนือไปจากเอกสารทางการศึกษา ผลสอบต่าง ๆ แล้ว จดหมายแนะนำตัว (Personal Statement) ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ ในการสมัครเรียนต่อปริญญาตรี และสูงกว่าปริญญาตรี ซึ่งข้อแนะนำในการเขียนดังนี้

• การแนะนำตัว: ให้ข้อมูลเกี่ยวกับผู้สมัคร รวมถึงชื่อ ประวัติการศึกษา และรายละเอียดส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้อง
• แรงบันดาลใจ: อธิบายถึงเหตุผลให้ชัดเจนว่าทำไมจึงเลือกเรียนหลักสูตร หรือสาขาวิชานี้ อธิบายถึงความหลงใหล ความสนใจ และเหตุผลในการตัดสินใจของคุณ
• ศักยภาพทางวิชาการ: เน้นความสามารถทางวิชาการของผู้สมัคร และแสดงคุณสมบัติที่ทำให้คุณเป็นผู้สมัครที่เหมาะสม สำหรับหลักสูตร โครงการ หรืองานวิจัยที่เกี่ยวข้องที่คุณได้ทำ
• ประสบการณ์ที่เกี่ยวข้อง: อธิบายเกี่ยวกับประสบการณ์ก่อนหน้านี้ เช่น การฝึกงาน การฝึกงาน หรือกิจกรรมนอกหลักสูตรที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับสาขาวิชาที่เรียน อธิบายว่าประสบการณ์เหล่านี้มีส่วนทำให้คุณเข้าใจ และสนใจไปเรียนต่อหลักสูตนี้อย่างไร
• ความสำเร็จ: เน้นย้ำถึงความสำเร็จ รางวัล หรือการยอมรับที่โดดเด่นที่คุณได้รับในด้านวิชาการ ส่วนบุคคล หรือวิชาชีพ สิ่งเหล่านี้สามารถแสดงให้เห็นถึงความทุ่มเท ความมุ่งมั่น และทักษะที่เกี่ยวข้องกับหลักสูตรที่สมัครเรียนต่อ
• คุณสมบัติส่วนบุคคล: อธิบายคุณสมบัติ และทักษะที่ทำให้คุณเป็นคนพิเศษ และมีคุณค่าต่อสังคมในมหาวิทยาลัย ซึ่งอาจจะรวมถึงการทำงานเป็นทีม ความเป็นผู้นำ การแก้ปัญหา การสื่อสาร หรือการปรับตัว
• เป้าหมายในอนาคต: สรุปเป้าหมายในระยะยาวของคุณ และการใช้ประโยชน์จากหลักสูตรที่สมัครเรียนต่อ เพื่อให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ทางอาชีพ หรือทางวิชาการของคุณ
• กิจกรรมนอกหลักสูตร และงานอดิเรก: สรุปสั้น ๆ ถึงการมีส่วนร่วมในกิจกรรมนอกหลักสูตร ชมรม หรืองานอดิเรกที่แสดงให้เห็นถึงบุคลิก ความสนใจ และความสามารถในการจัดการเรื่องเวลาอย่างมีประสิทธิภาพ

อย่าลืมจัดเรียงโครงสร้างคำชี้แจงของคุณอย่างมีเหตุผล และยกตัวอย่างหลักฐานที่เฉพาะเจาะจงเพื่อสนับสนุนการเขียน และปรับแต่งการเขียนของคุณให้เหมาะกับหลักสูตร หรือมหาวิทยาลัยแต่ละแห่งที่คุณสมัคร รวมถึงตรวจสอบให้แน่ใจว่า SOP จะสะท้อนถึงบุคลิก และแรงบันดาลใจที่แท้จริงของคุณ

จดหมายแนะนำตัว ควรจะมีความยาวเท่าไหร่?

สำหรับการสมัครเรียนต่อปริญญาตรี โดยทั่วไปความยาวเฉลี่ยจะอยู่ในช่วง 350-700 คำ อย่างไรก็ตาม หลักสูตรปริญญาโทอาจจะต้องมีความยาวกว่านั้น เช่น จำกัดจำนวนคำ 1,000 คำ

สาเหตุที่จดหมายแนะนำตัว ไม่ผ่านการคัดเลือก

• ความยาวน้อยไป หรือมากเกินไป: ควรรักษาสมดุลในแง่ของความยาว โดยหลีกเลี่ยงการเขียนที่สั้นหรือยาวเกินไป
• การตกหล่นของข้อมูลสำคัญ หรือการเขียนรายละเอียดเชิงลบ: สิ่งสำคัญคือต้องรวม หรือเขียนข้อมูลที่เกี่ยวข้องและสำคัญทั้งหมด และควรหลีกเลี่ยงการเขียนใแง่มุมเชิงลบ
• โครงสร้างการเขียนซับซ้อน: ควรมีโครงสร้างที่ชัดเจน และสมเหตุสมผล ที่สื่อสารถึงความคิดและประสบการณ์ของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ
• ความไม่ซื่อสัตย์ หรือการพูดเกินจริง: ความจริงใจเป็นสิ่งจำเป็น การโกหกหรือพูดเกินจริงเกี่ยวกับชีวิตส่วนตัว หรือวุฒิการศึกษาของคุณเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ เนื่องจากเจ้าหน้าที่จะมีการตรวจสอบใบสมัครอย่างละเอียด และสามารถทราบถึงการทุจริตได้

เทคนิคการเขียนจดหมายแนะนำตัว

• เชื่อมโยงความสนใจ และความหลงใหลของตัวเองเข้ากับหลักสูตร หรือสาขาวิชาที่สนใจ
• เขียนด้วยความจริงใจ แต่อย่าใส่ข้อมูลเชิงลบ
• สร้างการเชื่อมโยงระหว่างความสนใจคุณ กับหลักสูตรที่สมัครเรียนต่อ
• อย่าพยายามเขียนแต่ข้อดีจนเกินจริง
• เตรียมจดหมายแนะนำตัว และส่งภายในระยะเวลาเนิ่น ๆ ไม่ควรปล่อยให้ระยะเวลากระชั้นชิด
• สามารถให้คนใกล้ตัวอย่างเพื่อน-ครอบครัว หรือผู้เชี่ยวชาญช่วยตรวจสอบการสะกดคำ
• อย่าทำซ้ำเนื้อหาจาก CV หรือเรซูเม่

รับคำแนะนำการเขียนจดหมายแนะนำตัว (Statement of Purpose Support)

สำหรับนักเรียนที่เขียนจดหมายแนะนำตัวเรียบร้อยแล้ว สามารถนัดหมายกับเจ้าหน้าที่ SI-Australia เราพร้อมช่วยเหลือเพื่อให้คำแนะนำ แก้ไข ตรวจทานข้อความภาษาอังกฤษ เพื่อให้มีความชัดเจน และถูกต้องตามหลักไวยากรณ์